วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความคล้ายคลึงทางพันธุกรรมของคนกับสุนัข


ความคล้ายคลึงทางพันธุกรรมของคนกับสุนัข
นักวิจัยจากสถาบันวิจัยจีโนม*Genome
ในรัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาลำดับเบสใน
ดีเอ็นเอของสุนัข และนำมาเปรียบเทียบกับลำดับเบสใน
ดีเอ็นเอของคนและหนู เนื่องจากสัตว์ทั้งสามมีบรรพบุรุษร่วมกัน แต่มีวิวัฒนาการแตกแขนงออกไปเป็นสัตว์แต่ละชนิด ดังนั้นจึงมีลำดับเบสในดีเอ็นเอใกล้เคียงกัน แต่ลำดับเบสในสายดีเอ็นเอของคนและสุนัขมีความใกล้้เคียงมากกว่าหนู โดยคนและสุนัขมีคู่เบสที่เหมือนกันมากกว่า 25% หรือ 650 ล้่านคู่
ด้วยเหตุนี้นักวิจัยจึง
พยายามศึกษาจีโนมสุนัขอย่างจริงจัง เพื่อหวังจะใช้เป็นต้นแบบในการศึกษาการเกิดโรคของคน เช่น โรคมะเร็ง โดยพบว่าการตายของสุนัขส่วยใหญ่เกิดจากโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ซึ่งเหมือนกับโรคมะเร็งที่เกิดกับคน นอกจากนี้บริษัทยาและมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ยังใช้สุนัขเป็นต้นแบบในการศึกษา เพื่อพัฒนาเทคนิคการปลูกถ่ายไขกระดูกอีกด้วย

*จีโนม Genome หมายถึง หนวยพันธุกรรม หรือยีนทั้งหมดที่มีคุณสมบัติควบคุม
ลักษณะกรรมพันธุ์ในสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่ง

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คูวาสซ์ Kuvasz

คูวาสซ์ Kuvasz
คูวาสซ์ หมายถึง ยามถืออาวุธของพวกผู้ดี นานนับศตวรรษมาแล้วที่ได้รับใช้พวกผู้ดีแห่งฮังการีในฐานะเป็นองครักษ์ส่วนตัว
ในระหว่างรัชสมัยอันวุ่นวายของกษัตริย์มัทเธียสที่ 1 ซึ่งมีแต่การสงครามและการเมืองยุ่งเหยิง
กษัตริย์ได้วางใจในหมาของพระองค์เสียยิ่งกว่าพวกข้าราชบริพารมากหลายที่แวดล้อมพระองค์อยู่เสียด้วยซำ้ไป หมาคูวาสซ์ตัวอยู่ตัวหนึ่งที่ติดตามพระองค์ไปทุกแห่งหน และยืนยามเฝ้าอยู่ตรงประตูในห้องของพระองค์เลยทีเดียว คอกหมาของกษัตริย์ยังเลี้ยงหมาคูวาสซ์เอาไว้ล่าสัตว์อีกด้วย การให้ลูกหมาเป็นของกำนัลถือว่าเป็นการแสดงความโปรดปรานของพระราชาต่อขุนนางและผู้มาเยือนราชสำนัก หลายปีต่อมาหมาพันธุ์นี้ก็มาผสมพันธุ์ฮังการีอย่างดีอีกสองชนิดคือ
พันธุ์ปูลี และโคมอนดอร์ ที่เป็นหมาเลี้ยงแกะ ขณะที่หมาปูลีเลี้ยงแกะเป็นส่วนมาก หมาโคมอนดอร์และคูวาสซ์ก็เฝ้ายามป้องกันหมาป่าและโจรปล้นปศุสัตว์ สองพันธุ์ดังกล่าวยังทำหน้าที่อยู่ตามทุ่งราบ ส่วนคูวาสซ์ชาวไร่และชาวเมืองนิยมใช้เป็นหมาเฝ้ายามชั้นเยี่ยม
ความละม้ายกันมากของหมาคูวาสซ์สีขาวกับหมาเกรตพีรีนีส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นยามเฝ้าปราสาทฝรังเศสในสมัย
กลางส่อให้เห็นถึงบรรพสุนัขแห่งเดียวกัน บ้านดั้งเดิมของ
คูวาสซ์น่าจะเป็นธิเบตและหมา
มาสตีฟฟ์ของธิเบตก็น่าจะเป็นต้นเหง้าของพันธุ์นี้ ภาษาตุรกีคำว่า kuwasz ที่หมาได้ชื่อมา
ทำให้สันนิษฐานเป็นทฤษฎีได้ว่า ชาวตุรกีสมัยอ็อตโตมานได้นำเอาหมาพันธุ์นี้จากเอเชียเข้าไปในยุโรป แต่บางคนก็เชื่อว่านำเข้ามาในฮังการีพร้อมกับหมาปูลีและโคมอนดอร์ โดยพวกชาวฮั่นหรือแม็กยาร์ที่เข้ามารุกรานเมื่ิอพันปีมาแล้ว
แม้รูปร่างจะดูใหญ่โต หมาคูวาสซ์หลังกว้างนี้ก็ว่องไวและเดินตีนเบา ขนขาวผ่องนั้นหนาทึบและหยักเป็นลอนเล็กน้อย หูห้อยแนบหัวและเป็นลอนเล็กน้อย กะโหลกแบนหางตก
ในสหรัฐอยู่ตามคอกเลี้ยงแกะทางแถบตะวันตก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นหมาเลี้ยงแกะที่เก่าแก่มาก่อน
สูงเพียงไหล่ 24-28 นิ้ว นำ้หนัก 70-90 ปอนด์
*ความต่างระหว่าง
เกรตพีรีนีส์ สูง 25-32 นิ้ว
คูวาสซ์ สูง 24-28 นิ้ว
เกรตพีรีนีส์ ขน ยาวกว่า ไม่เป็นลอน
คูวาสซ์ ขน สั้นกว่าและเป็นลอน
เกรตพีรีนีส์ หู โคนหูจะยกขึ้น
คูวาสซ์ หู ห้อยแนบหัว

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เกรตพีรีนีส์ Great Pyrenees

เกรตพีรีนีส์ Great Pyrenees

คนอังกฤษเรียกว่า Pyrenees Mountain Dog คนฝรังเศสเรียกว่า Le Grand dos Montagnes หรือ Chein des Pyrenees ส่วนสหรัฐก็เรียกGreat Pyrenees และพรรณนาว่า "ปุยหิมะที่เป็นตัวหมา"ได้ชื่อมาจากขุนเขาตามแนวพรมแดนฝรั่งเศส-สเปน อันเป็นถิ่นที่ปกป้องฝูงแกะและเฝ้าบ้าน ลาก
เกวียนเล่มเล็กๆ มาช้านานหลายร้อนปีแล้ว เป็นหมาในตระกูลมาสตีฟฟ์ที่มีประวัติอันน่าภาคภูมิใจมานาน บรรพสุนัขน่าจะมาจากเอเชียกลางหรือไซบีเรีย ได้ทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นได้ในชั้นดินยุคสำริดเมื่อกว่า 3000 ปีมาแล้ว แม้
ก่อนหน้านั้นเองชาวกรุงบาบิโลนได้เขียนรูปหมาตัวเบิ้มๆ เอาไว้ ซึ่งเหมือนหมาพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก ในเทือกเขาพีรีนีส์อันปกคลุมไปด้วยหิมะ หมาพันธุ์นี้เจริญพันธุ์มาอยางโดดเดี่ยวนับร้อยๆ ปีในฐานะเป็นเพื่อนคู่ใจของคนเลี้ยงแกะ เขาสวมปลอกคอด้วยหนังที่ฝังทองเหลืองเป็นปุ่มแหลมๆ ไว้รอบๆ นอกเหมือนสวมเกราะคอ และขนที่ยาวหนา จึงตระเวณไปตามทุ่งเลี้ยงแกะบนเขาไปทั่ว คนเลี้ยงแกะก็ได้อาศัยพันธุ์นี้เองที่จะ
ตะลุมบอนกับหมาป่าและหมี เพราะตัวใหญ่และแข็งแรงอย่างยิ่ง และวางใจให้ดูแลฝูงแกะ ซึงนับว่าตัดสินใจได้ถูกต้อง และนักเขียนแต่เก่าก่อนซึงประทับใจกับความองอาจแกล้วกล้าของมันมักจะพรรณนาถึงว่าเป็น Pyrenean Wolfhound หรือไม่ก็ Bearhound เพราะปลำ้กับ
หมาป่าหรือหมีได้สบายมาก เมื่อบรรดาหมาป่าและหมีร่อยหรอหมดลงไปเจ้าเบิ้มเลยทำหน้าที่เป็นยามทั่วไปและงานอื่นๆ แล้วแต่จะเกณฑ์ให้ทำ ชาวฝรั่งเศสได้เห็นคุณค่าของหมาพันธุ์ภูเขานี้มาแต่แรก ก็เลยเอามาเล้ียงไว้เป็นฝูงๆ เพื่อเฝ้าปราสาทใหญ่ๆ หลายแห่ง รูปสลักในสมัยกลางบนตราราชสำนักมากมายก็มีรูปเหมือนของมันอยู่ และในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็น "หมาขุนนางร่างขาวปลอด"ในราชสำนัก
ในศตวรรษที่ 17 หมาพันธุ์นี้ได้ติดไปกับเรือประมงของชน
ชาวบาสก์ เที่ยวไปจนถึงนิวฟันด์แลนด์อันเป็นถิ่นที่พวกแสวงหาเมืองขึ้นเอาไปผสมพันธุกับ Curly-coated Retriever ซึ่งบางคนก็เล่าว่าทำให้เกิดเป็นพันธุ์
หมานิวฟันด์แลนด์ขึ้น สายเลือดของหมาเกรตพีรีนีส์นี้ยังกล่าวว่ามีอยู่ในหมาพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดในทุกวันนี้ด้วย
หมานี้มาถึงสหรัฐเป็นครั้งแรกตอนที่ นายพลฟาเย็ต ให้เพื่อนชาวอเมริกันไปคู่หนึ่งเมื่อปี 1824 โดยบอกว่า "เป็นสิ่งมีค่าที่สุดแก่ผู้ที่เลี้ยง
แกะทุกภาคทีต้องเสี่ยงจากหมาป่าและหมาอื่นที่คอยรังแกแกะ" ไม่มีหมาชนิดอื่นเลยที่นำเข้าสหรัฐในชงศตวรษต่อจากนั้น และจนกระทั้งปี 1933 สโมสรหมาของอเมริกันจึงได้รับรองหมาพันธุ์นี้
รูปร่างอันใหญ่โตมโหฬารและเรี่ยวแรงฉกาจฉกรรจ์ของมันนั้นเอง ใช้เป็นหมาจับพวกลักลอบขนของหนีภาษีตามแนวพรมแดนฝรั่งเศสและสเปนจึงได้ใช้มันอยู่นานหลายปี บางตัวก็ไปรับราชการในสงครามโลกครั้งที่ 1 และสหรัฐก็ฝึกไว้อีกสองสามตัวใน
สงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อไปแบกปืนกลหนัก กระสุน และเสบียง
หลังอันกว้างและตรงตลอดจนทรวงอกอันใหญ่ ให้คุณแก่การใช้งานบนเขามานานนับร้อยๆ ปี หัวที่โตและเสี้ยมออกไปดูๆ แล้วก็เหมือนหัวหมีที่มันเคยฟัดเคยตะลุมบอนมาเมื่อกาลก่อน นิ้วติ่งคู่ที่ขาหลังแต่ละข้างบอกยี่ห้อของพันธุ์นี้ โดยเฉพาะขนสีขาวเรียบของมันบางทีก็มีสีเทาหรือสีแทนผ่านเป็นทาง เป็นหมาที่วางใจได้สนิทกับพวกเด็กๆ และจะพิทักษ์รักษาบ้านของนายในยุคปัจจุบันด้วยความจงรักภักดีอย่างหาที่เสมอเหมือนมิได้ ดังที่มันได้เคยปฎิบัติมาแก่เจ้าของฝูงแกะเมื่อหลายศตวรรษก่อนโพ้น
สูงเพียงไหล่ 25-32 นิ้ว นำ้หนัก 50-125 ปอนด์

subscribe now