วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เกรตพีรีนีส์ Great Pyrenees

เกรตพีรีนีส์ Great Pyrenees

คนอังกฤษเรียกว่า Pyrenees Mountain Dog คนฝรังเศสเรียกว่า Le Grand dos Montagnes หรือ Chein des Pyrenees ส่วนสหรัฐก็เรียกGreat Pyrenees และพรรณนาว่า "ปุยหิมะที่เป็นตัวหมา"ได้ชื่อมาจากขุนเขาตามแนวพรมแดนฝรั่งเศส-สเปน อันเป็นถิ่นที่ปกป้องฝูงแกะและเฝ้าบ้าน ลาก
เกวียนเล่มเล็กๆ มาช้านานหลายร้อนปีแล้ว เป็นหมาในตระกูลมาสตีฟฟ์ที่มีประวัติอันน่าภาคภูมิใจมานาน บรรพสุนัขน่าจะมาจากเอเชียกลางหรือไซบีเรีย ได้ทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นได้ในชั้นดินยุคสำริดเมื่อกว่า 3000 ปีมาแล้ว แม้
ก่อนหน้านั้นเองชาวกรุงบาบิโลนได้เขียนรูปหมาตัวเบิ้มๆ เอาไว้ ซึ่งเหมือนหมาพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก ในเทือกเขาพีรีนีส์อันปกคลุมไปด้วยหิมะ หมาพันธุ์นี้เจริญพันธุ์มาอยางโดดเดี่ยวนับร้อยๆ ปีในฐานะเป็นเพื่อนคู่ใจของคนเลี้ยงแกะ เขาสวมปลอกคอด้วยหนังที่ฝังทองเหลืองเป็นปุ่มแหลมๆ ไว้รอบๆ นอกเหมือนสวมเกราะคอ และขนที่ยาวหนา จึงตระเวณไปตามทุ่งเลี้ยงแกะบนเขาไปทั่ว คนเลี้ยงแกะก็ได้อาศัยพันธุ์นี้เองที่จะ
ตะลุมบอนกับหมาป่าและหมี เพราะตัวใหญ่และแข็งแรงอย่างยิ่ง และวางใจให้ดูแลฝูงแกะ ซึงนับว่าตัดสินใจได้ถูกต้อง และนักเขียนแต่เก่าก่อนซึงประทับใจกับความองอาจแกล้วกล้าของมันมักจะพรรณนาถึงว่าเป็น Pyrenean Wolfhound หรือไม่ก็ Bearhound เพราะปลำ้กับ
หมาป่าหรือหมีได้สบายมาก เมื่อบรรดาหมาป่าและหมีร่อยหรอหมดลงไปเจ้าเบิ้มเลยทำหน้าที่เป็นยามทั่วไปและงานอื่นๆ แล้วแต่จะเกณฑ์ให้ทำ ชาวฝรั่งเศสได้เห็นคุณค่าของหมาพันธุ์ภูเขานี้มาแต่แรก ก็เลยเอามาเล้ียงไว้เป็นฝูงๆ เพื่อเฝ้าปราสาทใหญ่ๆ หลายแห่ง รูปสลักในสมัยกลางบนตราราชสำนักมากมายก็มีรูปเหมือนของมันอยู่ และในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็น "หมาขุนนางร่างขาวปลอด"ในราชสำนัก
ในศตวรรษที่ 17 หมาพันธุ์นี้ได้ติดไปกับเรือประมงของชน
ชาวบาสก์ เที่ยวไปจนถึงนิวฟันด์แลนด์อันเป็นถิ่นที่พวกแสวงหาเมืองขึ้นเอาไปผสมพันธุกับ Curly-coated Retriever ซึ่งบางคนก็เล่าว่าทำให้เกิดเป็นพันธุ์
หมานิวฟันด์แลนด์ขึ้น สายเลือดของหมาเกรตพีรีนีส์นี้ยังกล่าวว่ามีอยู่ในหมาพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดในทุกวันนี้ด้วย
หมานี้มาถึงสหรัฐเป็นครั้งแรกตอนที่ นายพลฟาเย็ต ให้เพื่อนชาวอเมริกันไปคู่หนึ่งเมื่อปี 1824 โดยบอกว่า "เป็นสิ่งมีค่าที่สุดแก่ผู้ที่เลี้ยง
แกะทุกภาคทีต้องเสี่ยงจากหมาป่าและหมาอื่นที่คอยรังแกแกะ" ไม่มีหมาชนิดอื่นเลยที่นำเข้าสหรัฐในชงศตวรษต่อจากนั้น และจนกระทั้งปี 1933 สโมสรหมาของอเมริกันจึงได้รับรองหมาพันธุ์นี้
รูปร่างอันใหญ่โตมโหฬารและเรี่ยวแรงฉกาจฉกรรจ์ของมันนั้นเอง ใช้เป็นหมาจับพวกลักลอบขนของหนีภาษีตามแนวพรมแดนฝรั่งเศสและสเปนจึงได้ใช้มันอยู่นานหลายปี บางตัวก็ไปรับราชการในสงครามโลกครั้งที่ 1 และสหรัฐก็ฝึกไว้อีกสองสามตัวใน
สงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อไปแบกปืนกลหนัก กระสุน และเสบียง
หลังอันกว้างและตรงตลอดจนทรวงอกอันใหญ่ ให้คุณแก่การใช้งานบนเขามานานนับร้อยๆ ปี หัวที่โตและเสี้ยมออกไปดูๆ แล้วก็เหมือนหัวหมีที่มันเคยฟัดเคยตะลุมบอนมาเมื่อกาลก่อน นิ้วติ่งคู่ที่ขาหลังแต่ละข้างบอกยี่ห้อของพันธุ์นี้ โดยเฉพาะขนสีขาวเรียบของมันบางทีก็มีสีเทาหรือสีแทนผ่านเป็นทาง เป็นหมาที่วางใจได้สนิทกับพวกเด็กๆ และจะพิทักษ์รักษาบ้านของนายในยุคปัจจุบันด้วยความจงรักภักดีอย่างหาที่เสมอเหมือนมิได้ ดังที่มันได้เคยปฎิบัติมาแก่เจ้าของฝูงแกะเมื่อหลายศตวรรษก่อนโพ้น
สูงเพียงไหล่ 25-32 นิ้ว นำ้หนัก 50-125 ปอนด์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

subscribe now